วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557

คนเกิดวันพุธ(กลางคืน)

ปางปาลิไลยก์ (วันพุธกลางคืน)

พระพุทธรูปอยู่ในพระอริยาบถประทับ (นั่ง) บนก้อนศิลา พระบาททั้งสองวางบนดอกบัว พระหัตถ์ซ้ายวางค่ำบนพระขนะ (เข่า)พระหัตถ์ขวาวางหงายนิยมสร้างช้างหมอบใช้งวงจับกระบอกน้ำ อีกด้านหนึ่งมีลิงถือรวงผึ้งถวาย

ประวัติย่อ

ในสมัยหนึ่งพระวินัยธรและพระธรรมกถึกชาวเมืองโกสัมพี ได้ก่อความทะเลาะวิวาทกันขึ้นในโฆสิตารามด้วยเรื่องการยกโทษกันเกี่ยวกับวินัย จนหมู่ภิกษุตลอดถึงอุบาสก อุบาสิกาเกิดแตกแยกกันขึ้นเป็น 2 ฝ่ายแม้พระพุทธองค์จะทรงเข้าไปไกล่เกลี่ยให้สงฆ์ปรองดองกันเสียแต่ก็ไม่มีใครเชื่อฟังพระโอวาทนั้น ทำให้พระองค์ทรงเหนื่อยหน่ายความถือรั้นด้วยทิฏฐิมานะของภิกษุเหล่านั้นจึงเสด็จไปยังราวป่าอันเป็นที่อยู่ของช้างชื่อปาริเลยยกะ เพียงพระองค์เดี่ยวโดยไม่อำลาใครๆและได้ประทับอยู่ที่ราวป่านั้นเพียงลำพัง โดยมีช้างปาริเลยยกะคอยปรนนิบัติทำกิจวัตรต่างๆ แต่พระศาสดา ทำให้ชัฏป่าแห่งนั้นได้ชื่อว่า รักชิตวัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    ต่อมา ลิงตัวหนึ่งเห็นช้างทำกิจวัตรต่างๆปรนบัติพระศาสดาเช่นนั้นจึงเกิดความเลื่อมใสคิดอยากบำรุงพระศาสดาบ้าง ภายหลังวันหนึ่งได้พบรวงผึ้งบนกิ่งไม้จึงหักกิ่งนั้นนำมาถวายพระศาสดาแต่เห็นพระองค์รับแล้วกลับนิ่งเฉยเสีย จึงใคร่ครวญดูก็ได้เห็นว่ามีตัวอ่อนไต่อยู่บนรัง เลยเขี่ยตัวอ่อนนั้นทิ้งแล้วถวายเสียใหม่ คราวนี้พระพุทธองค์ทรงรับแล้วก็เสวย ทำให้ลิงตัวนั้นปิติยินดียิ่งนัก วิ่งกระโดดไปมาบนกิ่งไม้แต่บังเอิญกิ่งที่ลิงเหยียบและยึดเอาไว้นั้นหักลงมาตรงตอไม้ปลายแหลมพอดี ทำให้ลิงตัวหนั้นถูกปลายตอเสียบทะลุร่างสิ้นใจตายแล้ว ได้บังเกิดเป็นเทพบุตรบนดาวดึงส์
    ช้างปาริเลยยกะได้ปรนนิบัติรับใช้พระพุทธองค์ตลอดไตรมาส โดยมิได้ขาดตกบกพร่องฝ่ายภิกษุชาวเมืองโกสัมพี ภายหลังจากวันที่พะพุทธเจ้าเสด็จหลีกไปนั้น ได้มีพวกอุบาสกอุบาสิกามาเข้าเฝ้าพระศาสดาที่โฆสิตาราม แต่ไม่พบจึงสอบถามจนทราบเรื่องราวและสาเหตุที่พระพุทธองค์เสด็จหนีไป ทำให้ชนทั้งหลายต่างไม่พอใจภิกษุเหล่านั้น จึงพร้อมใจกันงดทำสามีจิกรรม งดถวายอาหาร ทำให้พวกเธอต้องอยู่จำพรรษาในโฆสิตารามด้วยความยากลำบาก จึงหันมาสามัคคีปองดองกันเหมือนเดิม แต่ชาวบ้านก็ยังไม่ยกโทษให้จนกว่าพวกเธอจะทูลขอขมาให้พระพุทธองค์อดโทษเสียก่อน
    หลังออกพรรษา ตระกูลเศรษฐีคหบดี ในเมืองสาวัตถี มีอนาถบิณฑิกเศรษฐีและนางวิสาขามหาอุบาสิกา เป็นต้น ได้ส่งข่าวไปขอร้องให้พระอานนท์พุทธอุปัฏฐากไปกราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์ให้เสด็จไปพระนครสาวัตถีด้วย
    พระอานนท์จึงพาภิกษุต่างถิ่น จำนวน 500 รูปที่เดินทางมาเพื่อประสงค์จะเข้าเฝ้าพระพุทธองค์เช่นกัน ไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ณ ราวป่ารักชิตวัน แล้วกราบทูลแจ้งตามความประสคงค์ของเศรษฐีคหบดีชาวพระนครสาวัตถึให้ทรงทราบ พระพุทธเจ้าจึงแสดงธรรมโปรดพระภิกษุที่มาเข้าเฝ้าจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด จากนั้นก็ได้เสด็จไปยังพระนครสาวัตถี
    ฝ่ายช้างปาริเลยยกะ ไม่อาจตัดความรักที่มีต่อพระศาสดาได้ เมื่อพระองค์ทรงพาหมู่ภิกษุหลีกไปก็ขาดใจตายไปบังเกิดเป็นเทพบุตรบนดาวดึงส์ ส่วนภิกษุชาวเมืองโกสัมพีทราบข่าวว่าพระศาสดาเสด็จไปประทับอยู่ ณ เชตวัน เมืองสาวัตถีแล้วจึงพากันไปเข้าเฝ้าและกราบทูลขอขมาต่อพระพุทธองค์
    ด้วยเหตุที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปประทับอยู่จำพรรษาตามลำพังที่ราวป่ารักขิตวันโดยมีช้างปาริเลยยกะคอยอุปัฏฐากปรนนิบัติบำรุงดังกล่าว ต่อมาจึงได้มีการสร้างพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ขึ้น และใช้เป็นปางพระพุทธรูปบูชา สำหรับผู้เกิดวันพุทธกลางคืน

บทสวดมนต์บูชาพระประจำวันพุธ (กลางคืน)...


มีกำลัง 12 บทสวดย่อ พุท ปัน ทุ ธัม วะ คะ

ยัสสานุภาเวน ยักขา เนวะ ทัสเสนะติ ภิง สะนัง ยัมหิ เจวานุยุญชันโต
รัตตินทิวะมะตันทิโต สุขัง สุปะติ สุตโตจะ ปาปัง กิญจิ นะ ปัสสะติ
เอวะมาทิคุณูเปตัง ปะริตตันตัมภะณามะ เห

หรือ
กินนุ สันตะระมาโนวะ ราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ
ภีโต ติฏฐะสีติ สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธาคาถาภิคิโตมหิ โนเจ มุญเจยะ จันทิมันต



ผู้ที่เกิดวันราหู หรือวันพุธกลางคืน นี้ ควรใช้ของประดับตัวและบ้านเรืออนเป็นสเมฆหมอก สีเทา หรือสีดำหลัว ส่วนสีรองๆ ลงมา คือ สแดง สีขาวนวล สีกรมท่า สีน้ำเงินแก่ พึงเว้นสีเหลือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น