วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ติติรชาดก

บาปเกิดจากความจงใจ

          ในสมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ในวทริการามเมืองโกสัมพี ทรงปรารภพระราหุลเถระ ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...
          กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลพราหมณ์ตระกูลหนึ่ง หลังจากเรียนจบศิลปวิทยาจากเมืองตักกสิลาแล้ว ได้ออกบวชเป็นฤาษีบำเพ็ญเพียรอยู่ในป่าหิมพานต์วันหนึ่งพระฤาษีได้สัญจรไปที่บ้านชายแดนหมู่บ้านหนึ่ง คนในหมูบ้านนั้นได้สร้างอาศรมถวาย จึงได้อาศัยอยู่ที่นั้นเรื่อยมา

          สมัยนั้น มีนายพรานนกคนหนึ่งในหมู่บ้านนั้น เลี้ยงนกกระทาไว้ตัวหนึ่งเพื่อไว้เป็นนกต่อ ทุกวันเขาจะพานกกระทาไปเพราะอาศัยเสียงของเรา ได้ตายไปเป็นจำนวนมาก เป็นบาปกรรมของเราหนอ นับแต่นี้ไปเราจะไม่ส่งเสียงร้องละ" นายพรานเมื่อเห็นนกกระทาไม่ร้องก็ใช้ไม้ตีหัว นกกระทากลัวตายจึงร้อง สร้างความทุกข์ลำบากให้แก่มันเป็นอย่างมาก อยู่ต่อมาวันหนึ่ง นายพรานจับนกกระทาได้เต็มกระเช้าแล้ว คิดจะดื่มน้ำไปที่อาศรมของพระฤาษีโพธิสัตว์ วางกรงนกไว้แล้วดื่มน้ำ ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจึงเอนกายผล่อยหลับไป
          นกกระทาทราบว่านายพรานหลับ แล้ว จึงถามความสงสัยของตนกับพระฤาษีว่า "พระคุณเจ้าข้าพเจ้าเป็นอยู่สบายได้บริโภคอาหารตามชอบใจ แต่อยู่ในระหว่างอันตราย อยากทราบว่าทางเดินชีวิตของข้าพเจ้าเป็นอย่างไรหนอ?"
          พระฤาษีแก้ปัญหานกกระทาว่า "นกกระทาเอ๋ย.. ถ้าใจของเจ้าไม่น้อมไปเพื่อกรรมอันเป็นบาป บาปย่อมไม่แปดเปื้อนเจ้าผู้บริสุทธิ์ใจไม่คิดจะทำบาปกรรมดอก"
          นกกระทาถามต่ออีกว่า พระคุณเจ้า นกกระทาจำนวนมากคือญาติของข้าพเจ้า นายพรานอาศัยข้าพเจ้าทำปณาติบาตอยู่ ข้าพเจ้ารังเกียจเรื่องนี้มาก บาปกรรมจะมีถึงแก่ข้าพเจ้าไหมหนอ"
          พระฤาษีจึงตอบเป็นคาถาว่า
          "ถ้าใจของท่านไม่คิดประทุษร้ายไซร้ กรรมชั่วที่นายพรานอาศัยท่านกระทำแล้ว ย่อมไม่ถูกต้องท่านบาปกรรมย่อมไม่แปดเปื้อนท่านผู้บริสุทธิ์ ผู้มีความขวนขวายน้อย"
          แล้วก็พูดให้นกกระทาสบายใจว่า "เจ้าไม่มีความจงใจการทำปาณาติบาต บาทกรรมจึงไม่มีแก่เจ้าผู้บริสุทธิ์ดอกนะ" นกกระทาได้ฟังแล้วก็สบายใจนิ่งเงียบอยู่ ฝ่ายนายพรานตื่นนอนแล้วลุกขึ้นไหว้ฤาษีแล้วก็ถือกรงนกกระทากลับบ้านไป
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :ไม่มีเจตนาจะทำบาปกรรม แม้จะประกอบอาชีพที่เสี่ยงต่อการทำบาป บาปกรรมก็ไม่ตกแก่ผู้นั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น