วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

มิลินทปัญหา(๙)


(๘) ปัพพชาปัญหา คำรบ๕.

      อันดับนั้นแท้จริง เมื่อพระนาคเสนผู้มีอายุ มิ่งมงกุฎวิสุทธิสงฆ์องค์อรหันต์ เทศนาโปรดอันตกายอำมาตย์แล้ว ก็ดำเนินลีลาศเข้าสู่พระนิเวศน์วังใน เสด็จขึ้นไปบนปราสาท นิสัชนาการนั่งเหนือปัญญัตตาอาสน์กับพระภิกษุแปดหมื่นสมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นพิภพขึ้นชมพูทวีป ก็ทรงรับรัดเร่งให้ปรนนิบัติด้วยโภชนียะของเคี้ยวของกัดดูดดื่มอันประณีตบรรจง ยังพระนาคเสนกับพระภิกษุสงฆ์ให้อิ่มหนำสำราญแล้วสมเด็จบรมบพิตรก็ถวายไตรจีวรให้ทั้งแปดหมื่นแล้ว
ก็มีพระทัยชื่นชมต่อบรมทาน จึงมีพระราชโองการให้พระนาคเสนเอาภิกษุหนุ่มไว้แต่ ๑๐ องค์ นิมนต์พระภิกษุมากกว่านั้นอันเฒ่าแก่กลัวนั่งเจ็บหลังนิมนต์กลับไปยังอสงไขยบริเวณ ส่วนสมเด็จกรุงมิลินท์ก็จับเอาอาสนะนั่งใกล้พระนาคเสนองค์เอกอรหันต์ จึงมีสุนทรพจนารถราชโองการประภาษว่า ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า
เราทั้ง ๒ นี้จะสนมานาพาทีด้วยเหตุอันใดดี ในกาลบัดนี้
      ฝ่ายพระนาคเสนเถรเจ้า จึงมีเถรวาจาถวายพระพรว่า ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ อามตากับมหาบพิตรนี้คิดว่าจะสนทานกันที่เป็นประโยชน์ ขอถวายพระพรขณะนั้นกรุงมิลินท์ปิ่นประชากรมีสุนทรพจนารถราชโองการ ตรัสถามปัญหาเหมือนอันถามแล้วในวันก่อนนั้นว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า บรรพชาของ
พระผู้เป็นอุดมอย่างไรบรรพชานี้จะให้ประโยชน์อะไรพระนาคเสนก็แก้ไขเหมือนอันวิสัชนาในวันก่อนว่า ขอถวายพระพร บรรพชานี้เพื่อจะ ให้ระงับทุกข์คือทุกข์ ๔ กอง มีชาติทุกข์เป็นต้นให้ระงับดับไป มิให้ทุกข์อื่นบังเกิด คือ จะเกิดอีกนั้นมิให้มีประการ ๑
อีกประการหนึ่งเล่า มีอรรถอันอุดมคือ จะให้ได้พระนิพพานหาเชื้อกิเลสตัณหามิได้ ขอถวายพระพร สิ้นคำวิสัชนาพระนาคเสนเท่านี้พระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดี เอาปัญหาที่ถามแล้ว กลับเอามาถามอีก หวังจะตั้งเป็นเหตุจะได้ถามลักษณะแห่งบุคคลบรรพชา เหตุฉะนี้พระองค์จึงมี
พระราชปุจฉาถามพระนาคเสนฉะนี้ว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ลักษณะบุคคลจะเข้าบรรพชาบวชในพระพุทธุบาทศาสนานี้มีประโยชน์อย่างไร
พระนาคเสนถวายพระพรว่า ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐในสิริมไหศวรรย์คนทั้งหลายคิดต่างกัน บางพวกนั้น คือ ท้าวพระยาเบียดเบียนใช้สอย หนีออกไปบวชในพระพุทธศาสนาก็มี บางทีบรรพชาเพื่อจะให้คุ้นเคยท้าวพระยารู้จักมักใคร่ก็มี บางทีบวชเพื่อจะได้อิสริยยศเป็นที่ทางอันใหญ่ บางทีบวชเพื่อจะได้อาหารเลี้ยงชีวิต บางทีคิดกลัวภัยโจรจะคอยฆ่า กลัวภัยท้าวพระยาจะฆ่าตี กลัวภัยเจ้าหนี้จะตามทวงกลัวทั้งปวงนี้ก็หนีเข้าบรรพชา ที่ว่าจะคิดถึงตัวกลัวภัยในสงสาร ออกบรรพชาปรารถนาพระนิพพานก็มี ขอถวายพระพร
     พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นสาคลนคร จึงมีพระราชโองการย้อนถามว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าพระผู้เป็นเจ้านี้มาบรรพชาจะปรารถนาอย่างไร นิมนต์วิสัชนาให้แจ้งก่อน
พระนาคเสนถวายพระพรว่า ดูรายะมหาบพิตร อาตมานี้บรรพชาแต่ยังเป็นทารกได้ ๗ ขวบก็หารู้ไม่ ครั้นจำเริญใหญ่ขึ้นมา ท่านสมณะที่เป็นสากยบุตรพุทธชิโนรสผู้ใหญ่ฝึกสอนอาตมาโดยให้มีสติปัญญารู้ซึ่งพุทธาธิบายบัดนี้อาตมาบรรพชาก็หมายจะใคร่ได้พระนิพพานขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นสาคลนครก็รับคำสรรเสริญว่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวนี้สมควรแล้ว

 ปัพพชาปัญหา คำรบ ๕ จบเท่านี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น